เครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้

    การทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาโดยตลอดเป็น  สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Toyota ก้าวขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์อันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ก็คือการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และพัฒนาได้ตรงจุดความต้องการของคนใช้รถในปัจจุบันซึ่งจะเน้นไปทางด้านการประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญทางโตโยต้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้จาก ระบบคอมมอลเรล ต่อยอดเป็นระบบเทอร์โบแปรผัน จนล่าสุดพัฒนาสู่ระบบไดมอนด์ เทค (Diamond Tech) ใน โตโยต้าวีโก้แชมป์ รุ่นล่าสุดของทางโตโยต้า ที่กำลังจำหน่ายอยู่ในขณะนี้    ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านที่กำลังมองหารถกะบะที่ประหยัดน้ำมันไว้ใช้งาน บทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ การทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้กันอย่างละเอียดลึกซึ้งเลยครับ

 เริ่มต้นด้วยการทำงานของระบบ คอมมอนเรล
ลองมาดูความหมายและคำแปลก่อนนะครับ COMMON = ร่วม และ RAIL = ราง รวมแล้วแปลว่า ระบบรางร่วม คือระบบจ่ายน้ำมันแบบรางร่วมเป็นระบบการจ่ายน้ำมันดีเซล แบบรางร่วมที่นิยมใช้มากในเครื่องยนต์ดีเซลปัจจุบัน ที่สามารถสร้างแรงบิดและแรงม้าได้สูง
ในระบบคอมมอลเรลจะมีอุปกรณ์หลักๆคือ


ปั้มคอมมอนเรล
1. ปั๊มแรงดันสูง สามารถสร้างแรงดันได้ 1,600-1,800bar ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิต แรงดันที่สูงนี้ทำให้น้ำมันแตกตัวเป็นละอองได้ดีกว่าการใช้หัวฉีดแบบเก่ามาก หรือที่เรียกว่า Fuel Atomisation
2. หัวฉีด จะทำหน้าที่จ่ายน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ ให้น้ำมันเป็นฝอยละเอียดที่เล็กมากๆ ทำให้น้ำมันสามารถคลุกเคล้ากับอากาศได้ดี เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์
3. รางร่วม มีลักษณะเป็นท่อเล็กๆยาวๆ ที่มีความหนามากเพื่อทนแรงดันที่สูง รางร่วมนี้จะรักษาความดันให้คงที่ และมีเซ็นเซอร์แรงดันติดอยู่ เพื่อส่งข้อมูลกลับไปกล่อง ECU บอกสภาวะของแรงดันที่รอบเครื่องต่างๆกัน
4. ชุดควบคุมอิเล็คทรอนิค(ECU)และอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ 
    ในระบบคอมมอนเรล จะใช้ปั๊มแรงดันสูงทำหน้าที่สร้างแรงดันน้ำมันสูง อัดน้ำมันเข้าสู่รางร่วม (Common rail) เพื่อรักษาแรงดันในระบบให้ทุกสูบเท่ากัน รอจังหวะการฉีดที่เหมาะสม ที่คำนวณจากหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Control Unit;ECU) โดยECUจะรับค่าจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่นเซ็นเซอร์ตำแหน่งขาคันเร่ง ความเร็วรอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิอากาศ แรงดันเทอร์โบเป็นต้น นำมาคำนวณหาปริมาณการฉีดที่เหมาะสมและจังหวะการฉีดที่ถูกต้อง ส่งสัญญาณไปยังหัวฉีด ซึ่งหัวฉีดถูกควบคุมการจ่ายน้ำมันด้วยโซลีนอยด์ไฟฟ้าให้หัวฉีด เปิดน้ำมันเข้ากระบอกสูบตามจังหวะและปริมาณตรงตามความต้องการของเครื่องยนต์ เนื่องจากECUเป็นตัวควบคุมการจ่ายน้ำมัน ซึ่งสามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ ในปัจจุบันระบบคอมมอนเรลจึงสามารถสั่งการฉีดน้ำมันได้ถึง 5 ครั้งต่อการทำงาน 1วัฐจักร (จากเดิมฉีดน้ำมัน 1 ครั้ง ต่อการทำงาน 1 วัฐจักร) เป็นการลดปริมาณมลพิษ ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และเขม่ำควันดำต่างๆ เพื่อให้ได้ตามกฏข้อบังคับก๊าซไอเสีย ซึ่งประเทศไทยใช้มาตราฐานของยุโรป(EURO) อีกทั้งยังเป็นการลดการเผาไหม้ที่รุนแรง ช่วยลดเสียงน็อคของเครื่องยนต์ โดยการฉีดของหัวฉีดแต่ละครั้งคือ
การฉีดครั้งที่ 1 เป็นฉีดนำร่อง เป็นส่วนช่วยให้เชื้อเพลิงส่วนแรกผสมกับอากาศได้ดีเสียก่อน
การฉีดครั้งที่ 2 เพื่อความเข้มข้นของเชื้อเพลิงในการเริมการเผาไหม้ส่วนแรก
การฉีดครั้งที่ 3เป็นการฉีดเชื้อเพลิงหลัก (Main-Injection) เป็นการฉีดที่ควบคุมสภาวะการทำงานของเครื่องยนต์ตามคันเร่ง
การฉีดครั้งที่4 เป็นการฉีดหลัง เพื่อเผาเขม่าหรืออนุภาคคาร์บอน (Particulate matter;PM) ส่วนสุดท้ายเพื่อให้มีการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุด
การฉีดครั้งที่5 เป็นการฉีดปิดท้ายเพื่อควบคุมอุณหภูมิไอเสีย

   ลองมาทำความรู้จักกับไดมอนด์ เทค (Diamond Tech) ที่ถูกเรียกว่าหัวฉีดอัฉริยะดูนะครับ
  เป็นเทคโนโลยีด้านการประหยัดน้ำมัน ตัวล่าสุดของโตโยต้าทีถูกนำมาใส่ไว้ในเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้ โดยจะติดตั้งอยู่เฉพาะในรถยนต์ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ และ ฟอร์จูนเนอร์ ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้นครับ
ส่วนประกอบของระบบ ไดมอนด์ เทค (Diamond Tech)
1.ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ G3S ภายในเคลือบสารพิเศษ Diamond Liked Carbon Coating โดยเครื่องยนต์ 1KD และ 2KD VN จะมีหัวฉีดจำนวน 8 รู ส่วนเครื่องยนต์ 2KD และ 2KD I/C จะมีหัวฉีดจำนวน 6รู
2.ระบบควบคุมอัจฉริยะด้วยคอมพิวเตอร์ ECU 32 บิท
3.ระบบขับแรงดันสูง 180 Mpa
4.ระบบ เทอร์แปรผัน vn turbo

    หลักการทำงานของระบบ Diamond Tech จะเป็นไปตามหลักที่ว่า ฉีดเท่าที่ใช้ จ่ายเท่าที่จำเป็น โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมระบบหัวฉีดน้ำมันที่มีความแม่นยำสูง คำนวนปริมาณการจ่ายน้ำมันและส่งคำสั่งให้ให้หัวฉีดเพิ่มหรือลดปริมาณการจ่ายน้ำมันไปตามรอบความเร็วของเครื่องยนต์ แยกกันไปในแต่ละกระบอกสูบ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และตอบสนองต่อการขับขี่ของผู้ใช้แต่ละคนอย่างตรงจุด นอกจากนี้หัวฉีดที่เคลือบสารพิเศษ Diamond Liked Carbon Coating ขึ้นมา ทำให้จ่ายน้ำมันได้ลื่นขึ้น ฉีดน้ำมันออกเป็นฝอยละอองที่มีความละเอียดมาก ซึ่งทำให้การเผาไหม้ของน้ำมันทำได้อย่างหมดจด นอกจากนี้จากการเคลือบสารพิเศษยังช่วยลดการเกาะของคราบเขม่าที่เกิดจากการเผาใหม้ของน้ำมันบริเวณช่องจ่ายน้ำมันทำให้ปัญหาการอุดตันหัวฉีดลดลงไปด้วย และทำให้หัวฉีดทนทานขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีการเสริมพลังด้วยระบบเทอร์โบแปรผัน VN Turbo ที่มี่การควบคุมการเปิดปิดแรงดันอากาศและปรับองศาที่เหมาะตามความเร็วรอบของเครื่องยนต์อีกด้วยครับ

  ข้อดีของระบบ ไดมอนด์ เทค (Diamond Tech)
1.ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น จากการเผาไหม้อย่างหมดจดของน้ำมัน
2.เครื่องยนต์มีความทนทานมากขึ้น
3.เครื่องยนต์เดินเรียบและเงียบขึ้นกว่าเดิม
4.หัวฉีดทนทาน ทำให้ค่าบำรุงรักษาต่ำ และไม่ต้องคอยเปลี่ยนหัวฉีดบ่อยๆ
5.ตอบสนองต่อการขับขี่ของผู้ใช้แต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
  ส่วนประกอบการทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้อีกส่วนนึงที่มาควบคู่กันนั่นก็คือ vn turbo
vn turbo คืออะไร
   VN turbo มีหลายคนที่ยังสงสัยและยังไม่เข้าใจว่า vn turbo คืออะไร? vn turbo ก็เป็นส่วนหนึง่ของ การทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้ ที่ช่วยเพิ่มความแรง และความประหยัดน้ำมัน

  VN turbo ย่อมาจาก Variable Nozzle Turbo หรือ เทอร์โบแปรผันครีบ  คือ รอบๆ ใบพัดของโข่งไอเสีย จะมีครีบ บังคับทิศทางของไอเสีย ให้มีองศาการปะทะ ของไอเสีย กับใบเทอร์โบ ในมุมที่เหมาะสม เพื่อให้เทอร์โบสามารถทำลมเข้าเครื่องได้สูง และแรงดันเยอะ ทำให้รถมีกำลังมากขึ้น ซึ่งครีบปรับองศาของเทอร์โบนั้น ควบคุมการเปิดปิด ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าที่สั่งงานโดยกล่องอีเล็คโทรนิค ECU 32bit หรือที่เราเรียกว่ากล่องควบคุมนั่นแหละครับ เพื่อให้การทำงานของเทอร์โบสัมพันธ์กับทุกๆความเร็วรอบของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะที่รอบเครื่องยนต์ต่ำนั้น การทำงานของเทอร์โบแปรผันจะปรับองศาของครีบให้แคบลงเพื่อรีดไอเสียที่มีปริมาณน้อยให้ไหลเร็วขึ้น ส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่จะได้แต่ความแรง แต่ยังได้ความประหยัดอีกด้วย เพราะเมื่อรถคุณมีกำลังตั้งแต่รอบต่ำ เวลาออกตัว ก็ไม่ต้องเร่งมาก เวลาเร่งแซง ก็สามารถทำได้สะดวก
    ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตรงจุดของการทำงานของเครื่องยนต์ไฮลักซ์วีโก้ ที่ไม่เพียงตอบสนองด้านความแรงอย่างเดียว แต่ยังตอบโจทย์ในเรื่องการประหยัดน้ำมันอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยครับ ที่เราจะเห็นยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าวีโก้อยู่ในอันดับต้นๆ ของยอดขายรถกระบะในบ้านเรามานานหลายปีติดต่อกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังจะซื้อรถกระบะไว้ใช้งานนะครับ



การทำงานของกุญแจImmobilizer

            

Immobilizer








 Immobilizer เป็นระบบป้องกันการโขมยชนิดหนึ่ง ซึ่งกุญแจที่ใช้สตาร์ทถ้าไม่ใช่ดอกของมันรถจะไม่สามารถสจาร์ทติดได้โดยเด็ดขาด ถึงจะไปปั๊มกุญแจมาให้เหมือนขนาดไหนก็ตาม หรือว่าจะต่อสายตรง เครื่องก็ยังคงไม่ติดอยู่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่มีระบบไหนที่สามารถป้องกันการขโมยได้ 100% เป็นเพียงแค่การถ่วงเวลาให้ทำการขโมยได้ยากขึ้น.
กุญแจที่มีระบบ Immobilizer จะฝังไมโครชิพไว้ในลูกกุญแจ ทำให้ลูกกุญแจมีขนาดใหญ่กว่าปกติ



หรือใหญ่กว่าลูกกุญแจที่ไม่มีระับบ Immobilizer ซึงไมโครชิพจะส่งสัญญาณผ่านสนามแม่เหล็กให้กับ immo โดยผ่าน coil เป็นตัวถอดรหัสให้ immo อีกทีหนึ่ง coil ตัวนี้จะอยู่ที่คอพวงมาลัย ตำแหน่งเดียวกันกับที่เสียบลูกกุญแจ



  ส่วนประกอบของระบบ Immobilzer มี 3 ส่วนดังนี้

1.กล่อง ECU คือกล่งอควบคุม ทำหน้าที่รับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆเพื่อนำมาประมวลผล และใช้ในการควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลืง และการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ และยังควบคุมระบบต่างๆอีกมากมาย
2.ระบบ Immobilizer
3.กุญแจ  



การทำงานของกุญแจImmobilizer
   เวลาที่เราเสียบกุญแจเข้าไปนั้น ทุกอย่างจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกว่าเราจะบิดสวิตต์ไปที่ตำแหน่ง ON หรือ ACC และหลังจากนั้น immo จะเริ่มถามกุญแจว่ามีรหัสตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตอบสนองอะไรเลย immo ก็จะไม่ให้ ECU ที่เป็นกล่องควบคุม ทำการสตาร์ทเครื่องติดโดยเด็ดขาด
ในกรณีที่กุญแจตอบกลับมาแล้ว immo รู้จักกุญแจลูกนั้น, immo ก็จะส่งคำถามไปอีกชุดหนึ่ง เพื่อให้กุญแจเอาไปคิดแล้วค่อยตอบกลับมา โดยคำถามที่ส่งไป จะเป็นตัวเลขที่เกิดจากการ random จำนวน xx ไบต์ บวกกับ รหัสลับ ซึ่งจะมีเพียงกุญแจ และ Immo เท่านั้นที่รู้ รถจึงจะสตาร์ทติด




ถ้าเป็นรถยนต์ของโตโยต้าจะมีกุญแจ Immobilizer เกือบทุกรุ่น

ถึงแม้ว่าเราจะมีกุญแจที่มีระบบ Immobilizer ก็ตาม
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีระบบไหนที่สามารถป้องกันการขโมยได้ 100% เป็นเพียงแค่การถ่วงเวลาให้ทำการขโมยได้ยากขึ้นครับ.










เรื่องควรรู้ก่อนการซื้อรถยนต์

เรื่องควรรู้ก่อนการซื้อรถยนต์
   เรื่องควรรู้ก่อนการซื้อรถยนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของท่าน เพราะรถยนต์คันนึงราคาไม่ใช่ถูก หากซื้อมาแล้ว ใช้งานไม่ตรงกับความต้องการที่เราต้องการ ก็อาจจพทำให้ท่านต้องผิดหวังกับรถคันนั้นไปเลยก็ว่าได้ ดังนั้นแล้วจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องศึกษาการใช้งาน และความต้องการของท่านว่าต้องการรถยนต์ประเภทไหน เอามาใช้งานอย่างไร ซึ่งในบทความนี้จะบอกถึง 7 เรื่องคร่าวๆที่ท่านต้องทำการศึกษาเพื่อสำรวจความต้องการของตัวเอง เพื่อที่จะได้เลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานให้ได้คุ้มค่ากับการลงทุนให้มากที่สุด

  1.สำรวจความต้องการของตนเองว่าซื้อรถยนต์คันนี้มาใช้งานประเภทใด ซื้อเพื่อใช้ส่วนตัวหรือใช้สำหรับครอบครัว ส่วนใหญ่ขับในเมืองหรือนอกเมือง ถ้าเป็นการใช้ส่วนตัวเพื่อขับไปทำงานและวิ่งในเมืองเสียส่วนใหญ่ก็คงไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และเครื่องยนต์ที่มีซีซีสูง เพราะว่าการที่ซื้อรถยนต์มีขนาดใหญ่และขับคนเดียวในเมืองเป็นส่วนใหญ่ อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและไม่คล่องตัวในการขับขี่ รวมไปถีงความไม่สะดวกในการหาที่จอดรถยนต์ แต่ถ้าในวันหยุดต้องใช้สำหรับครอบครัวด้วยก็อาจต้องพิจารณาขนาดรถยนต์ที่ ใหญ่ขึ้น ถ้าเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่น ยาริสหรือโซลูน่า ก็อาจไม่เหมาะสมถ้ามีผู้โดยสารในครอบครัว 4 คน คงต้องพิจารณาเป็น อัลติส หรือแคมรี่ซึ่งเครื่องยนต์จะมีทั้ง 2.0 และ 2.5 ทั้งนี้ควรจะไปทดลองขับเพื่อความมั่นใจในกำลังของเครื่องยนต์ว่าตอบสนองความต้องการมากน้อยเพียงใด 

  2.ทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่ท่านสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ คุณสมบัติต่างๆและราคาของรถยนต์ท่านอาจหาได้จากแคตตาล็อก โบรชัวร์ หรือจากอินเตอร์เน็ต สิ่งที่ท่านต้องให้ความสนใจอาจเป็นเรื่องความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เบาะนั่ง DVD หรือ VCD เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ ช่องปรับอากาศด้านหลัง ความปลอดภัยของโครงสร้างตัวถังรถยนต์ การยุบตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่ลืมไม่ได้คือระบบความปลอดภัยก่อนเกิดอุบัติเหตุ (แอคทีฟเซฟตี้) เช่นระบบเบรค ระบบป้องกันการลื่นไถล ข้อมูลประหยัดน้ำมันโดยประมาณขณะขับขี่ในเมืองและนอกเมืองที่บริษัทฯอ้างอิง ให้พิจารณาประกอบ 

  3.พิจารณารถยนต์และรับทราบคุณสมบัติของรถยนต์ ก็ไปสัมผัสกับรถยนต์จริงๆและสอบถามความรู้เพิ่มเติมจากพนักงานขาย ควรใช้เวลานี้ในการซักถามข้อสงสัยทุกอย่าง  หลังจากที่พนักงานได้อธิบายความรู้เกี่ยวกับตัวรถยนต์ให้ท่านฟัง ถ้ามีข้อขัดแย้งในใจควรจะต้องได้รับการอธิบายจนเป็นที่ยอมรับหรือพอใจของท่านไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการรับประกัน ค่าบำรุงรักษา การเข้ารับบริการ คู่มือการใช้รถยนต์ ก่อนที่ท่านจะได้ตัดสินใจทดลองขับรถยนต์หรือไม่ นอกจากท่านจะสำรวจอุปกรณ์ต่างๆและการทำงานของอุปกรณ์ภายในตัวรถยนต์จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านอาจใช้โอกาสนี้เดินสำรวจบรรยากาศภายในโชว์รูมรวมถึงศูนย์บริการว่ามี มาตรฐานหรือไม่ เช่นความสะอาดของโชว์รูม บริเวณต้อนรับลูกค้า ศูนย์บริการ และ ห้องน้ำ 

  4.การทดลองขับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ยี่ห้อใดที่ท่านชอบ ผมขอแนะนำให้ท่านได้ทดลองขับก่อนการตัดสินใจซื้อรถยนต์ เพราะว่าท่านไม่สามารถมั่นใจในความสะดวกสบายและสมรรถนะการขับขี่โดยการเห็น จากโฆษณาเท่านั้น ในขณะขับขี่ผมแนะนำว่าไม่ควรรีบเปิดเครื่องเสียง เพื่อท่านจะได้มีโอกาสฟังเสียงเครื่องยนต์ในขณะขับขี่ว่าดังเกินไปหรือไม่  ถ้าเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเพื่อที่จะได้รับรู้ความรู้สึกเหมือนกับการใช้งานจริง จะเป็นการดีมากที่ท่านได้ทดลองขับพร้อมกับครอบครัว โดยท่านสามารถเป็นทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ผมแนะนำว่าต้องลองนั่งเบาะหลังเพื่อดูว่ามีอาการรู้สีกไม่สบายหรือเวียนศรีษะในขณะทดลองนั่งด้านหลังหรือไม่ ถึงแม้ว่ารถยนต์คันนี้ท่านใช้คนดียวส่วนใหญ่ ท่านก็ควรให้พนักงานขายลองขับให้ท่านนั่งในฐานะผู้โดยสารในตำแหน่งของเบาะนั่งต่างๆ เพราะว่าท่านคงไม่ปราถนาให้ผู้ที่มีโอกาสนั่งรถยนต์ของท่านรู้สึกไม่ดีเช่นกัน การทดลองขับจะทำให้ท่านได้ทราบและ มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยในรถยนต์ยี่ห้อที่ท่านจะตัดสินใจซื้อไม่ว่าจะเป็น ทัศนวิสัยในการขับขี่ ระบบเบรก การเกาะถนน และ การทรงตัวในขณะเข้าโค้ง โดยทั่วไปแล้วการทดลองขับ ทางโชว์รูมจะต้องมีใบประเมินผลการทดสอบขับ ท่านควรจะต้องขอดูก่อนว่ามีหัวข้อใดบ้างที่ท่านต้องสังเกตในระหว่างการขับขี่

  5.การเจรจาต่อรองเงื่อนไขพิเศษในการซื้อรถยนต์ ในกรณีที่ซื้อเงินผ่อนสิ่งที่ท่านต้องพิจารณาคือเงินดาวน์ จำนวนงวดที่ผ่อนชำระและดอกเบี้ย  ในการต่อรองท่านควรสอบถามเรื่องของแถม เช่น ฟิมล์กรองแสงระบุยี่ห้อ, ป้ายทะเบียน, และอื่นๆ 
  ท่านควรสอบถามเรื่องค่าดำเนินการในการจดทะเบียนรถยนต์และประกันภัยในวันออกรถยนต์ ท่านอาจได้รับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี และอย่าลืมให้พนักงานขายบันทึกข้อตกลงและของแถมทุกอย่างไว้ในใบจองรถยนต์ 

  6.การรับมอบรถยนต์ ท่านต้องตรวจสอบสภาพรถยนต์ภายในและภายนอกอย่างละเอียด ถ้าเป็นไปได้ควรมีผู้ติดตามเพื่อช่วยกันตรวจสอบ รอยขีดข่วน ความบกพร่องของสี หรือแม้แต่รอยบุบเล็กๆ ท่านสามารถขอดูเอกสารของการตรวจสอบรถยนต์เพื่อการส่งมอบรถยนต์โดยเดินตรวจสอบตามรายการที่ได้ตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ ที่สำคัญต้องมีการตรวจสอบการทำงานต่างๆของรถยนต์ ตรวจสอบเอกสารและอุปกรณ์ที่ติดมากับรถยนต์เช่นยางอะไหล่ เครื่องมือที่ติดมาพร้อมกับรถยนต์ คู่มือผู้ใช้รถ สมุดการรับประกัน และ สมุดตรวจเช็คระยะเมื่อเข้าศูนย์บริการ นอกจากนี้ควรได้รับการอธิบายรายละเอียดต่างๆในการเข้าศูนย์บริการพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

  7.เมื่อรับรถยนต์ไปแล้ว ท่านควรจะได้รับโทรศัพท์ติดตามสอบถามถึงความพึงพอใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์ ที่ท่านได้ซี้อมา โดยทั่วไปแล้วท่านต้องได้รับการติดต่อภายใน 7 วัน 



   7วิธีการนี้ท่านสามารถนำมาสำรวจตัวเองเพื่อจะได้เลือกซื้อรถยนต์ได้ตรงตามความต้องการในการใช้งานของท่านได้เป็นอย่างดี  หวังว่าบทความเรื่องควรรู้ก่อนการซื้อรถยนต์นี้จะช่วยให้ท่านสามารถซื้อรถยนต์ใหม่ได้อย่างคุ้มค่าและสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการใช้งานให้กับตัวท่านเอง


การใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

 วิธีการใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ(Cruise Control)

    การใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเป็นระบบที่รักษาความเร็วรถให้คงที่โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งทั้งนี้เพื่อความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ในการขับรถทางไกล บนถนนที่สามารถใช้ความเร็วคงที่ได้ เช่น มอเตอร์เวย์ ทางด่วนออกนอกเมือง เป็นต้น ระบบจะทำงาน เมื่อความเร็วของรถสูงกว่า 40 กม./ชม. แต่ไม่ควรใช้ระบบนี้ เมื่อขับรถในเมือง ถนนที่มีลมแรง ถนนลื่น ฝนตกหนัก หรือถนนที่มีทัศนวิสัยไม่ดี  เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ บทความนี้จะอธิบายถึงการใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้ทุกท่านได้ศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธี
   การใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอธิบายได้ดังนี้
สวิตชควบคุมมีการทํางาน 5 โหมดคือ ตั้งความเร็ว, ลดความเร็ว, เรียกใชความเร็วเดิม, เพิ่มความเร็ว, และยกเลิก
  การตั้งและล็อกความเร็ว กดปุ่ม ON-OFF เพื่อใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติกดปุ่ม SET เพื่อตั้งความเร็ว เมื่อความเร็วของรถถึงจุดที่ต้องการ ไฟสัญญาณบนแผงหน้าปัดจะสว่าง เพื่อแสดงว่าระบบยังทำงานอยู่ระบบจะไม่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้ เมื่อขับรถขึ้นหรือลงทางลาดชัน รวมทั้งระบบจะถูก
  การเพิ่มความเร็ว ในระหว่างการใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หากต้องการเพิ่มความเร็วที่ตั้งไว้ สามารถทำได้ 3 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 ให้ดันปุ่ม RES ขึ้นไปข้างบนแล้วค้างไว้ ความเร็วของรถจะเพิ่มขึ้น เมื่อปล่อยมือ จะเป็นความเร็วที่จุดนั้น
วิธีที่ 2 เหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วไปยังจุดที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม SET เพื่อตั้งความเร็วที่ควบคุม 
วิธีที่ 3 ดันปุ่ม RES ขึ้น แล้วปล่อยปุ่มเร็วๆ ความเร็วของรถจะเพิ่มขึ้นครั้งละประมาณ 5 กม./ชม.
  ระหว่างที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติทำงาน ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มความเร็วรถขึ้นได้โดยการเหยียบคันเร่ง เมื่อปล่อยเท้าออกจากคันเร่งความเร็วของรถจะกลับไปสู่ระดับที่ควบคุมไว้อย่างเดิม การเหยียบแป้นเบรกจนความเร็วต่ำว่า 40 กม.จะทำให้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติถูกยกเลิก แต่ระบบจะกลับมาสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้อีกครั้งเมื่อ เหยียบคันเร่งจนความเร็ว เกิน 40 ขึ้นไป
   การลดความเร็ว
วิธีที่ 1 ดันปุ่มSET ลงมาแล้วค้างไว้ ความเร็วของรถจะลดลง เมื่อปล่อยความเร็วที่ควบคุมจะเป็นความเร็วที่จุดนั้น
วิธีที่ 2 เหยียบเบรกแล้วปล่อย(ความเร็มห้ามต่ำกว่า 40 กม.)  เมื่อความเร็วลดลงถึงจุดที่ต้องการ ดันปุ่ม SET ลงมา เพื่อตั้งความเร็วที่ควบคุม ระบบจะควบคุมความเร็วของรถที่จุดนี้ไว้
วิธีที่ 3 ดันปุ่ม SET ลงมาล้วปล่อยปุ่มเร็ว ๆ ความเร็วของรถจะลดลงครั้งละ ประมาณ 1.6 กม./ ชม.
ยกเลิก 1.เมื่อมีการเหยียบเบรคจนความเร็วต่ำกว่า 40 กม.ระบบจะเลิกกการทำงาน หากต้องการกลับมาใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้เหยียบคันเร่งจนความเร็วเกิน 40 ขึ้นมาแล้วกดปุ่ม SETความเร็วก็จะถูกเซ็ตไว้ตามที่ตั้งไว้แต่ทีแรกครับ
2.หากต้องการยกเลิกถาวร คือไม่ต้องการใช้ระบบนี้แล้ว ให้กดปุ่ม ON-OFF ได้เลยครับ

   การใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้ความสะดวกสบายในการขับรถทางไกล เพื่อลดอาการเมื่อยล้า การทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมีเพียงเท่านี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังศึกษาวิธีการใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ อย่าลืมนะครับว่าระบบนี้ไม่ควรใช้เมื่อขับรถในเมือง ถนนที่มีลมแรง ถนนลื่น ฝนตกหนัก หรือถนนที่มีทัศนวิสัยไม่ดี  เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ หากมีข้อสงสัยอื่นๆเพิ่มเติม ให้ติดต่อไปยังศูนย์บริการได้เลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
แหล่งข้อมูล บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศทไย จำกัด

ความรับผิดชอบต่อสังคมของโตโยต้า

ความรับผิดชอบต่อสังคมของโตโยต้า
    ความรับผิดชอบต่อสังคมของโตโยต้า ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมเครือข่ายทางธุรกิจ คือ ผู้ผลิตชิ้นส่วน (suppliers) ผู้แทนจำหน่าย (dealers) รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางธุรกิจ ดำเนินธุรกิจโดยการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกกระบวนการทำงาน หรือ Integrated CSR across Value Chain กล่าวคือ ตั้งแต่การคิดค้นพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ การหาแหล่งและคัดสรรการใช้วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การบริหารจัดการขนส่ง ตลอดจนด้านการตลาดและการขาย รวมถึงการดูแลบริการหลังการขาย จะมีจิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และลูกค้า โดยพนักงานทุกคนรำลึกเสมอว่า ตนเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมสำเร็จได้

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบต่อสังคมไทย ผ่านการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

1. การจัดซื้อและการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เราคัดสรรต้องได้รับความปลอดภัยด้วยมาตราฐานสากล บริษัทผู้ผลิตต้องไม่กดขี่ด้านแรงงานหรือใช้แรงงานเด็ก รวมถึงมีการปฎิบัติที่เป็นธรรม ดังที่ระบุไว้ใน "แนวปฎิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า" เราพยายามจะคัดสรรวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ในระหว่างกระบวนการผลิตสิ้นเปลืองพลังงานน้อย หรือ ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป รวมถึงเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ดังที่ระบุไว้ใน "การจัดซื้อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2550

   ในส่วนของกระบวนการผลิต นอกเหนือจากการนำเกณฑ์มาตราฐาน ISO 14001 มาเป็นแนวปฎิบัติแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้ทุกปี เราตั้งใจก่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุดในระหว่างการผลิต มีการแยกของเสีย กระตุ้นให้เกิดการนำกลับมาใช้ใหม่ และหลีกเลี่ยงการซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่ยากต่อการย่อยสลาย

2. การบริหารจัดการและการตลาดอย่างมีความรับผิดชอบ
   เราจะพัฒนาสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้มีมาตราฐานสูงสุด ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยและสุขอนามัยให้ค่าตอบแทน และสวัสดิการอย่างยุติธรรม จัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพและโอกาสก้าวหน้าทางตำแหน่งงานแก่พนักงานทุกระดับ รวมถึงต่อต้านการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน การคุกคามทางเพศ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ผและเราสามารถรับประกันได้ว่าการปฎิบัติงานด้วยความรับผิดชอบนั้นเกิดขึ้นในทุกวัน ทุกระดับ และทุกตำแหน่งของบริษัท











   เราปฎิบัติตามกฎหมายในและระหว่างประเทศโดยเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและยุติธรรม และไม่ทำการให้สินบนแก่หน่วยงานของรัฐ ผู้มีอำนาจทางสังคม หรือทางคู่ค้าทางธุรกิจ เราผลักดันให้ผู้แทนจำหน่่ายนำเกณฑ์มาตราฐาน ISO 14001 ไปปฎิบัติ รวมถึงถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่จำเป็นให้แก้ผู้แทนจำหน่าย และร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายในการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด

    เราสัญญาว่าจะรักษาคุณภาพของชิ้นส่วนและสำรองไว้ในจำนวนที่เพียงพอเสมอ เราจะแก้ปัญหาข้อบกพร่อง การร้องเรียน และตอบคำถามด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเรียกรถคืนเพื่อทำการแก้ไข และซ่อมแซมชิ้นส่วนที่มีปัญหาเพื่อให้ลูกค้าและสังคมได้รับความพอใจสูงที่สุด นอกเหนือจากที่กล่าวมา เราปฎิญาณว่าจะไม่หลอกลวง กล่าวเกินจริง หรือฉ้อโกงในการขายหรือการตลาด และจะไม่สื่อสาร โดยใช้ข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือรสนิยมทางเพศ



3. การช่วยเหลือสังคมและชุมชน

   เราให้ความสำคัญสูงสุดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนที่โรงงานของเราตั้งอยู่ เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบริเวณโดยรอบของโรงงาน โดยจะพัฒนาคนในชุมชน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมจารีตประเพณีของชุมชน เราสัญญาที่จะดำเนินธุรกิจในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคม และนำรายได้ส่วนหนึ่งของบริษัทไปใช้ในการดำเนินโครงการเพื่อสังคม เพื่อที่เราจะได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยอ่างยั่งยืนสืบไป  การบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกขั้นตอนของการ ทำงานคือสิ่งที่เรายึดมั่นและถือปฎิบัติในการทำงานทุกๆวัน และเราขอเชื้อเชิญให้องค์กรอื่นๆ นำหลักปฎิบัตินี้ไปประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม.

   ความรับผิดชอบต่อสังคมของโตโยต้าเป็นสิ่งที่ทางโตโยต้าให้ความสำคัญมาก เพราะถ้าหากเราไม่ช่วยกันดูแลสังคมให้ สะอาดน่าอยู่  ก็อาจทำให้เกิดมลพิษและขยะที่เป็นพิษต่างๆเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และก็ยากที่จะแก้ไขให้ลดน้อยลงได้ง่าย ๆ ดังนั้นทางโตโยต้าจึงได้จึงเน้นในกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดของเสียให้น้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่ยากต่อการย่อยสลาย  เพื่อเป็นส่วนนึงในการช่วยสังคมให้มีขยะน้อยลง

--------------------------------------------------------------------------------------------------



แหล่งข้อมูล บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด









อุปกรณ์ตกแต่งวีโก้แชมป์

อุปกรณ์ตกแต่งวีโก้แชมป์ทุกรุ่น โฉมปัจจุบัน

  อุปกรณ์ตกแต่งวีโก้แชมป์รุ่นปัจจุบันมีมากมายหลายอย่างให้ท่านได้เลือกรับชมเป็นตัวอย่างในแต่ละส่วนของรถ เพื่อที่รถยนต์ของท่านจะได้ออกมาดูดี และได้ประโยชน์กับอุปกรณ์ที่ตกแต่ง


โครเมี่ยมครอบไฟหน้า
โครเมี่ยมครอบไฟตัดหมอก















โครเมี่ยมครอบช่องดักลม
แผงตกแต่งฝากระโปรง














ไฟตัดหมอกหน้า
กันสาดข้างรุ่นสมาร์ทแคป














กันสาดข้างและเบ้ารองมือเปิดประตูรุ่น 4 ประตู
แผงบังแดดหน้า














ผ้าคลุมรถ
กระจกมองมุม















แผงตกแต่งข้างประตู
บันไดข้าง














ล็อกล้ออะไหล่
กันชนท้าย















โครเมี่ยมครอบมือเปิดฝาท้าย
(ยกเว้นรุ่นตอนเดียวไม่รองรับ)
ไลเนอร์














เซนเซอร์กะระยะถอย 2 จุด
กันรอยทางขึ้น-ลง















พรมปูพื้นสีดำ
พรมปูพื้นสีครีม















แผงหน้าปัดลายไม้( วิทยุ )
แผงหน้าปัดลายไม้( DVD )















แผงควบคุมกระจกลายไม้
(ยกเว้นรุ่นTRDและ 2.5J ไม่สามารถติดตั้งได้)
กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ















จอDVDพร้อมระบบนำทาง
จอแสดงความเร็วแบบดิจิตอล















นวมหุ้มเบลล์
ชุดสัญญาณแตรมี 2 ชิ้น














  หวังว่าอุปกรณ์ตกแต่งวีโก้แชมป์จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์มาตกแต่งรถ ได้เป็นอย่างดีนะครับ

----------------------------------------------------------------------------------


แหล่งข้อมูล บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด